ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย รายงานการเติบโต

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย รายงานการเติบโต อย่างมาก ในการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 2566 โดยมีความก้าวหน้า อย่างมาก ในการปล่อยสินเชื่อด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ธนาคารนำโดยรัก วรกิจโภคาทร อนุมัติสินเชื่อ ใหม่ จำนวน 5,853 ล้านบาท โดยมียอดสินเชื่อและภาระผูกพันเพิ่มขึ้น 11,474 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

น่าสังเกตที่สินเชื่อและภาระผูกพันที่เกี่ยวข้องกับ ESG เพิ่มขึ้นถึง 55.19% รวมมูลค่า 67,310 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันคิดเป็น 38.64% ของพอร์ตการลงทุนของธนาคาร ความมุ่งมั่น ของธนาคารในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้นเห็นได้จากการสนับสนุนธุรกิจไทยอย่างต่อเนื่องในการขยายไปสู่ตลาด CLMV กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม และตลาด New Frontiers

เงินกู้ยืมและภาระผูกพันในภูมิภาคเหล่านี้มีจำนวน 43,257 ล้านบาท นอกจากนี้ Exim Bank ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดย 81.15% ของฐานลูกค้าจาก 5,607 หน่วยงานที่เข้าข่ายประเภทนี้ เอ็กซิมแบงก์เดินหน้าให้บริการประกันการส่งออกและการลงทุน มูลค่า 54,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.45% จากปีก่อน

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย รายงานการเติบโต อย่างมาก ในการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 2566 โดยมีความก้า

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และแนวทางเชิงรุก

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ส่งเสริมผู้ประกอบการประมาณ 19,840 รายผ่านโครงการสนับสนุนที่ครอบคลุม ซึ่งรวมถึงการบ่มเพาะ การแบ่งปันความรู้ การจับคู่ ธุรกิจและการให้คำปรึกษาทางการเงิน

แม้ว่าสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อยู่ที่ 8,600 ล้านบาท แต่อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดหวัง ของธนาคารยังคงแข็งแกร่งที่ 185.72% บ่งชี้ถึงบัฟเฟอร์ทางการเงินที่แข็งแกร่งเพื่อชดเชยผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น ปิดไตรมาส 1 ปี 2566 เอ็กซิมแบงก์ กำไรจากการดำเนินงาน 805 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18.71% รายงานกำไรสุทธิ 132 ล้านบาท

รัก ตอกย้ำแนวทางเชิงรุกของธนาคารในแคมเปญ Go the Extra Mile และบทบาทของธนาคารเพื่อการพัฒนาสีเขียว เพื่อสร้าง Greenovation เพื่อช่วยเหลือธุรกิจไทยทุกขนาดในห่วงโซ่อุปทานการส่งออกสีเขียว เพื่อตอบสนองต่อ นโยบาย ของรัฐบาล Exim Bank ได้ลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ลง 0.40% หรือคิด เป็น6.35% ต่อปี ซึ่งให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่สามารถแข่งขันได้ โดยเฉพาะกับSMEs

เมื่อมองไปข้างหน้าเศรษฐกิจ ของประเทศไทย คาดว่าจะเติบโต 2-3% ในปีนี้ เป็นการฟื้นตัวของภาคส่วนสำคัญ ๆ เช่น การบริโภค การลงทุนการท่องเที่ยวและการส่งออก หลังจากตกต่ำมานานถึง 2 ปี อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การฟื้นตัวของการผลิตที่ช้า และหนี้ครัวเรือนที่สูง ธุรกิจไทยจะต้องปรับตัวและสำรวจโอกาสใหม่ๆ ในเวทีโลก

ธนาคารเอ็กซิมเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยพัฒนา Greenovation เพื่อยกระดับการส่งออกของไทยให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานการส่งออกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ธนาคารเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 3.85% ต่อปีแก่ซัพพลายเออร์และผู้ซื้อปลายทางในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก ซึ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำสำหรับธุรกิจทุกขนาด รายงานข่าวสด

Credit club877.com

Related posts